วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

อารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันตก


อารยธรรมเมโสโปเตเมีย 
     เมโสโปเตเมีย” แปลว่าดินแดนระหว่างแม่น้ำสองสาย ได้แก่ แม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรติส ลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่ทอดโค้งจากฝั่งทะเลด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจรดอ่าวเปอร์เซีย จึงมีสมญานามว่า “ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์” ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทำให้ชนเผ่าต่างๆ เข้ามาตั้งถิ่นฐานมากมาย เช่น
        1. สุเมเรียน
-    ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของที่ราบเมโสโปเตเมียที่เรียกว่า “ซูเมอร์”
-   ปกครองแบบนครรัฐ (City States) แต่ละนครรัฐเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่กัน มีกษัตริย์เป็นผู้นำ นครรัฐที่สำคัญเช่น เมืองอูร์ เมืองเออรุคและเมืองอิริดู เป็นต้น
-    นับถือเทพเจ้าหลายองค์ มีเทพเจ้าประจำนครรัฐ เน้นโลกนี้เป็นสำคัญ ไม่เชื่อเรื่องโลกหน้า
-   ประดิษฐ์อักษรคูนิฟอร์ม(รูปลิ่ม) เขียนลงบนแผ่นดินเหนียวด้วยปากกาที่ทำจากต้นอ้อแล้วนำไปตากแห้ง
-   สร้างซิกกูแรต (วิหารบูชาเทพเจ้า)
-   วรรณกรรมกิลกาเมช กล่าวถึงการพจญภัยของสีรบุรุษชาวสุเมเรียน
-   วรรณกรรมเอนลิล กล่าวถึงการสร้างโลกและน้ำท่วมโลก
-   รู้จักใช้ระบบชลประทาน เช่น อ่างเก็บน้ำ เขื่อนกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ
-   ดำรงชีพด้วยการเพาะปลูก พืชที่สำคัญคือ ข้าวสาลี
-   รู้จักใช้ยานพาหนะเช่น รถม้า
-   รู้จักใช้โลหะผสม(สำริด) ทำเครื่องมือ เครื่องประดับ
-   รู้จักทอผ้า
-   รู้จักการบวก ลบ คูณ ทำปฏิทินจันทรคติ(ข้างขึ้น ข้างแรม) การนับวันเวลา
        2. อัคคัด หรือ อัคคาเดียน
-   เป็นพวกเร่ร่อนเผ่าเซมิติกตั้งถิ่นฐานบริเวณทะเลทรายซีเรียและทะเลทรายอาหรับ ได้เข้ายึดครองดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของดินแดนเมโสโปเตเมีย
-    ซากอนผู้นำชาวอัคคัด ได้ยึดครองนครรัฐของพวกสุเมเรียนและรวบรวมดินแดนบริเวณฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงอ่าวเปอร์เซียขึ้นป็นจักรวรรดิ
-    ปกครองไม่นานก็ถูกสุเมเรียนโค่นล้มแล้วปกครองใหม่เป็นครั้งที่สอง
          3.  อมอไรต์ หรือ บาบิโลน
-    เป็นเผ่าเซมิติก อพยพมาจากทะเลทรายอาระเบียน มายึดครองนครรัฐของสุเมเรียน
-    ขยายอาณาจักรไปกว้างขวางและสถาปณาจักรวรรดิบาบิโลเนีย
-    กษัตริย์ที่สำคัญคือพระเจ้าฮัมมูราบี
-    มีการประมวลกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คือกฎหมายฮัมมูราบี มีบทลงโทษแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
          4.  ฮิตไทต์
-    เป็นเผ่าอินโดยุโรเปียน
-    เดิมอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ขยายตัวมาตามลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส โจมตีทางเหนือของซีเรีย ปล้นกรุงบาบิโลนและปกครองดินแดนเมโสโปเตเมียต่อมา
-    มีความสามารถในการรบมาก
-    เป็นชนเผ่าแรกที่รู้จักใช้เหล็กทำเป็นอาวุธ รู้จักใช้รถเทียมม้าทำศึก
-    ตรงกับสมัยที่อียิปต์เรืองอำนาจ
-    กษัตริย์ฮัตตูซิลิที่ 3แห่งฮิตไทต์ และฟาโรห์รามเสสที่ 2แห่งอียิปต์ได้ทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกัน และหากบุคคลที่ 3มาโจมตี ต้องช่วยเหลือกัน
         5. แอสซีเรียน
-    เป็นเผ่าเซมิติกมาจากทะเลทรายอาหรับ
-    ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนิเนเวห์
-    สามารถในการรบและการค้า
-    ขยายอำนาจถึงฟินิเชีย ปาเลสไตน์ อียิปต์และเปอร์เซีย
-    กองทัพแข็งแกร่ง มีระเบียบวินัยสูง
-    ใช้เหล็กทำอาวุธ
-    มีการก่อสร้างที่ใหญ่โตมหึมา มำทำเป็นโดม เช่นพระราชวังซาร์กอน
-    มีการปั้นแบบนูนตัวและลอยตัว ให้อารมณ์สมจริง
-    มีการแกะสลักภาพ เคลื่อนไหวแบบธรรมชาติ
-    กษัตริย์องค์สุดท้ายคือ “พระเจ้าอัชชูบานิปาล” เป็นสมัยที่เจริญสูงสุด มีการสร้างหอสมุดรวบรวมข้อมูลมหาศาลและยังรวบรวมแผ่นดินเหนียวที่มีอักษรคูนิฟอร์ม22,000แผ่น
         6. แคลเดียน
-   เป็นเผ่าเซเมติก โค่นล้มแอสซีเรียนได้
-   สถาปณาจักรวรรดิแคลเดียนหรือบาบิโลเนียใหม่
-   สร้างสวนลอยแห่งบาบิโลน ในสมัยพระเจ้าเนบูชัดเนสซาร์
-   ทำแผนที่ดวงดาว
-   คำนวณการเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา
-   แบ่งสัปดาห์เป็น 7 วัน
           7. เปอร์เซีย
-   ชนเผ่าอินโดยุโรเปียน ปกครองบริเวณที่ราบสูงอิหร่านมีราชวงศ์ต่างๆปกครอง ดังนี้
1)  ราชวงศ์อะคีเมนิด
 - ก่อตั้งโดยพระเจ้าไซรัสมหาราช ขยายอำนาจไปจนถึงแม่น้ำสินธุ อียิปต์ 
 - พระเจ้าดาริอุส ขยายจักรวรรดิกว้างขวางไปอีก สร้างเมืองหลวงที่สวยงามชื่อ “เปอร์ชีโปลิช” สร้างถนนเชื่อมดินแดนในจักรวรรดิ ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของเปอร์เซีย
 - มีศาสนาโซโรแอสเตอร์ เป็นศาสนาประจำชาติ มีเทพเข้าอาหุรามาสดาเป็นเทพฝ่ายดีและอาหริมันป็นเทพฝ่ายชั่ว
- ถูกกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีกยึดครอง ทำให้เสื่อมลง
2) ราชวงศ์เซลิวชิด
-  ก่อตั้งโดยทหารของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีก แต่ไม่มีอำนาจ
3) จักรวรรดิของชาวปาร์เถียน
- ย้ายเมืองหลวงไปที่แบกแดด
4) ราชวงศ์ซัลซานิด
- ปกครองเป็นเวลา 400ปีเศษ  มีศาสนาอิสลามมาแทนที่ศาสนาซีโรแอสเตอร์
5) ราชวงศ์อับบาสิด หรือ อาหรับมุสลิม
- มุสลิมรุ่งเรืองทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
- กษัตริย์ที่สำคัญคือ ฮารูณ อัล ราชิด ส่งเสริมด้านการค้าจนรุ่งเรือง
6) สมัยมองโกลปกครอง
- ฮุลากุข่านหลานเจงกิสข่านมายึดกรุงแบกแดด ปกครองเป็นเวลา 200ปีครึ่ง
7) ราชวงศ์ซาฟาวี
- ขับไล่มองโกลไปได้ ย้ายเมืองหลวงไปที่อิสฟาฮาน
- กษัตริย์ที่สำคัญคือ ชาห์ อับบาสมหาราช ปฏิรูปการปกครอง
- นับถืออิสลามนิกายชีอะห์
8) ราชวงศ์คะจาร์
- เชื้อสายเติร์ก ไม่ค่อยมีอำนาจ ปกครองแบบเผด็จการ
- รัสเซียและอังกฤษขยายอำนาจ
9) ราชวงศ์ปาเลวี
- กษัตริย์คนแรกคือ เรซา ชาห์ ปาเลวี เปลี่ยนชื่อจากเปอร์ซียเป็นอิหร่าน
- สมัยพระเจ้ามุฮำมัด เรซาห์ ชาห์ นำกฎหมายฝรั่งเศสมาใช้ มีการปฏิรูปที่ดิน แต่เศรษฐกิจก็ถดถ้อย
10) สมัยสาธารณรัฐอิสลาม
- อยาโตลลา  โคไมนี โค่นราชวงศ์ปาเลวี เปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ
- ต่อต้านสหรัฐอเมริกา
- เมื่ออยาโตลลา โคไมนีถึงแก่กรรม ผู้นำได้ดำเนินนโยบายสายกลาง ปฏิรูปเศรษฐกิจ ให้เสรีภาพ ให้สิทธิสตรี
            8. ฮิบรู
-  เป็นบรรพบุรุษของชาวยิว
-  เรื่องราวของชาวฮิบนูปรากฏอยู่มนภาคแรกของคัมภีร์ไบเบิล
-  กษัตริย์เดวิด เป็นปฐมกษัตริย์
-  กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ กษัตริย์โซโลมอน
-  นับถือลัทธิยูดาย
หลังจากกรีก-โรมัน เรืองอำนาจในเอเชียตะวันตก แต่อารญธรรมเมโสโปเตเมียก็ไม่สูญสลายก็มีวัฒนธรรมกรีก-โรมัน เป็นรากฐานวัฒนธรรมโลกต่อมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น