วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

อารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันตก


อารยธรรมเมโสโปเตเมีย 
     เมโสโปเตเมีย” แปลว่าดินแดนระหว่างแม่น้ำสองสาย ได้แก่ แม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรติส ลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่ทอดโค้งจากฝั่งทะเลด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจรดอ่าวเปอร์เซีย จึงมีสมญานามว่า “ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์” ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทำให้ชนเผ่าต่างๆ เข้ามาตั้งถิ่นฐานมากมาย เช่น
        1. สุเมเรียน
-    ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของที่ราบเมโสโปเตเมียที่เรียกว่า “ซูเมอร์”
-   ปกครองแบบนครรัฐ (City States) แต่ละนครรัฐเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่กัน มีกษัตริย์เป็นผู้นำ นครรัฐที่สำคัญเช่น เมืองอูร์ เมืองเออรุคและเมืองอิริดู เป็นต้น
-    นับถือเทพเจ้าหลายองค์ มีเทพเจ้าประจำนครรัฐ เน้นโลกนี้เป็นสำคัญ ไม่เชื่อเรื่องโลกหน้า
-   ประดิษฐ์อักษรคูนิฟอร์ม(รูปลิ่ม) เขียนลงบนแผ่นดินเหนียวด้วยปากกาที่ทำจากต้นอ้อแล้วนำไปตากแห้ง
-   สร้างซิกกูแรต (วิหารบูชาเทพเจ้า)
-   วรรณกรรมกิลกาเมช กล่าวถึงการพจญภัยของสีรบุรุษชาวสุเมเรียน
-   วรรณกรรมเอนลิล กล่าวถึงการสร้างโลกและน้ำท่วมโลก
-   รู้จักใช้ระบบชลประทาน เช่น อ่างเก็บน้ำ เขื่อนกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ
-   ดำรงชีพด้วยการเพาะปลูก พืชที่สำคัญคือ ข้าวสาลี
-   รู้จักใช้ยานพาหนะเช่น รถม้า
-   รู้จักใช้โลหะผสม(สำริด) ทำเครื่องมือ เครื่องประดับ
-   รู้จักทอผ้า
-   รู้จักการบวก ลบ คูณ ทำปฏิทินจันทรคติ(ข้างขึ้น ข้างแรม) การนับวันเวลา
        2. อัคคัด หรือ อัคคาเดียน
-   เป็นพวกเร่ร่อนเผ่าเซมิติกตั้งถิ่นฐานบริเวณทะเลทรายซีเรียและทะเลทรายอาหรับ ได้เข้ายึดครองดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของดินแดนเมโสโปเตเมีย
-    ซากอนผู้นำชาวอัคคัด ได้ยึดครองนครรัฐของพวกสุเมเรียนและรวบรวมดินแดนบริเวณฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงอ่าวเปอร์เซียขึ้นป็นจักรวรรดิ
-    ปกครองไม่นานก็ถูกสุเมเรียนโค่นล้มแล้วปกครองใหม่เป็นครั้งที่สอง
          3.  อมอไรต์ หรือ บาบิโลน
-    เป็นเผ่าเซมิติก อพยพมาจากทะเลทรายอาระเบียน มายึดครองนครรัฐของสุเมเรียน
-    ขยายอาณาจักรไปกว้างขวางและสถาปณาจักรวรรดิบาบิโลเนีย
-    กษัตริย์ที่สำคัญคือพระเจ้าฮัมมูราบี
-    มีการประมวลกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คือกฎหมายฮัมมูราบี มีบทลงโทษแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
          4.  ฮิตไทต์
-    เป็นเผ่าอินโดยุโรเปียน
-    เดิมอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ขยายตัวมาตามลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส โจมตีทางเหนือของซีเรีย ปล้นกรุงบาบิโลนและปกครองดินแดนเมโสโปเตเมียต่อมา
-    มีความสามารถในการรบมาก
-    เป็นชนเผ่าแรกที่รู้จักใช้เหล็กทำเป็นอาวุธ รู้จักใช้รถเทียมม้าทำศึก
-    ตรงกับสมัยที่อียิปต์เรืองอำนาจ
-    กษัตริย์ฮัตตูซิลิที่ 3แห่งฮิตไทต์ และฟาโรห์รามเสสที่ 2แห่งอียิปต์ได้ทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกัน และหากบุคคลที่ 3มาโจมตี ต้องช่วยเหลือกัน
         5. แอสซีเรียน
-    เป็นเผ่าเซมิติกมาจากทะเลทรายอาหรับ
-    ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนิเนเวห์
-    สามารถในการรบและการค้า
-    ขยายอำนาจถึงฟินิเชีย ปาเลสไตน์ อียิปต์และเปอร์เซีย
-    กองทัพแข็งแกร่ง มีระเบียบวินัยสูง
-    ใช้เหล็กทำอาวุธ
-    มีการก่อสร้างที่ใหญ่โตมหึมา มำทำเป็นโดม เช่นพระราชวังซาร์กอน
-    มีการปั้นแบบนูนตัวและลอยตัว ให้อารมณ์สมจริง
-    มีการแกะสลักภาพ เคลื่อนไหวแบบธรรมชาติ
-    กษัตริย์องค์สุดท้ายคือ “พระเจ้าอัชชูบานิปาล” เป็นสมัยที่เจริญสูงสุด มีการสร้างหอสมุดรวบรวมข้อมูลมหาศาลและยังรวบรวมแผ่นดินเหนียวที่มีอักษรคูนิฟอร์ม22,000แผ่น
         6. แคลเดียน
-   เป็นเผ่าเซเมติก โค่นล้มแอสซีเรียนได้
-   สถาปณาจักรวรรดิแคลเดียนหรือบาบิโลเนียใหม่
-   สร้างสวนลอยแห่งบาบิโลน ในสมัยพระเจ้าเนบูชัดเนสซาร์
-   ทำแผนที่ดวงดาว
-   คำนวณการเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา
-   แบ่งสัปดาห์เป็น 7 วัน
           7. เปอร์เซีย
-   ชนเผ่าอินโดยุโรเปียน ปกครองบริเวณที่ราบสูงอิหร่านมีราชวงศ์ต่างๆปกครอง ดังนี้
1)  ราชวงศ์อะคีเมนิด
 - ก่อตั้งโดยพระเจ้าไซรัสมหาราช ขยายอำนาจไปจนถึงแม่น้ำสินธุ อียิปต์ 
 - พระเจ้าดาริอุส ขยายจักรวรรดิกว้างขวางไปอีก สร้างเมืองหลวงที่สวยงามชื่อ “เปอร์ชีโปลิช” สร้างถนนเชื่อมดินแดนในจักรวรรดิ ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของเปอร์เซีย
 - มีศาสนาโซโรแอสเตอร์ เป็นศาสนาประจำชาติ มีเทพเข้าอาหุรามาสดาเป็นเทพฝ่ายดีและอาหริมันป็นเทพฝ่ายชั่ว
- ถูกกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีกยึดครอง ทำให้เสื่อมลง
2) ราชวงศ์เซลิวชิด
-  ก่อตั้งโดยทหารของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีก แต่ไม่มีอำนาจ
3) จักรวรรดิของชาวปาร์เถียน
- ย้ายเมืองหลวงไปที่แบกแดด
4) ราชวงศ์ซัลซานิด
- ปกครองเป็นเวลา 400ปีเศษ  มีศาสนาอิสลามมาแทนที่ศาสนาซีโรแอสเตอร์
5) ราชวงศ์อับบาสิด หรือ อาหรับมุสลิม
- มุสลิมรุ่งเรืองทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
- กษัตริย์ที่สำคัญคือ ฮารูณ อัล ราชิด ส่งเสริมด้านการค้าจนรุ่งเรือง
6) สมัยมองโกลปกครอง
- ฮุลากุข่านหลานเจงกิสข่านมายึดกรุงแบกแดด ปกครองเป็นเวลา 200ปีครึ่ง
7) ราชวงศ์ซาฟาวี
- ขับไล่มองโกลไปได้ ย้ายเมืองหลวงไปที่อิสฟาฮาน
- กษัตริย์ที่สำคัญคือ ชาห์ อับบาสมหาราช ปฏิรูปการปกครอง
- นับถืออิสลามนิกายชีอะห์
8) ราชวงศ์คะจาร์
- เชื้อสายเติร์ก ไม่ค่อยมีอำนาจ ปกครองแบบเผด็จการ
- รัสเซียและอังกฤษขยายอำนาจ
9) ราชวงศ์ปาเลวี
- กษัตริย์คนแรกคือ เรซา ชาห์ ปาเลวี เปลี่ยนชื่อจากเปอร์ซียเป็นอิหร่าน
- สมัยพระเจ้ามุฮำมัด เรซาห์ ชาห์ นำกฎหมายฝรั่งเศสมาใช้ มีการปฏิรูปที่ดิน แต่เศรษฐกิจก็ถดถ้อย
10) สมัยสาธารณรัฐอิสลาม
- อยาโตลลา  โคไมนี โค่นราชวงศ์ปาเลวี เปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ
- ต่อต้านสหรัฐอเมริกา
- เมื่ออยาโตลลา โคไมนีถึงแก่กรรม ผู้นำได้ดำเนินนโยบายสายกลาง ปฏิรูปเศรษฐกิจ ให้เสรีภาพ ให้สิทธิสตรี
            8. ฮิบรู
-  เป็นบรรพบุรุษของชาวยิว
-  เรื่องราวของชาวฮิบนูปรากฏอยู่มนภาคแรกของคัมภีร์ไบเบิล
-  กษัตริย์เดวิด เป็นปฐมกษัตริย์
-  กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ กษัตริย์โซโลมอน
-  นับถือลัทธิยูดาย
หลังจากกรีก-โรมัน เรืองอำนาจในเอเชียตะวันตก แต่อารญธรรมเมโสโปเตเมียก็ไม่สูญสลายก็มีวัฒนธรรมกรีก-โรมัน เป็นรากฐานวัฒนธรรมโลกต่อมา

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

ทวีปแอฟริกา ตอนจบ


6. เศรษฐกิจ
   เกือบทุกชาติจัดอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ยกเว้นสาธารณรัฐแอฟริกาใต้เพียงชาติเดียวที่พัฒนาแล้ว สาเหตุที่ทำให้ล้าหลังคือ
   (1) อัตราการเพิ่มของประชากรสูง 
   (2) ขาดแคลนเงินทุน และเทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศ
   (3) ประชากรส่วนใหญ่ยากจน ขาดการศึกษา สุขภาพอนามัยต่ำ
   (4) ความแห้งแล้งและสภาพภูมิประเทศที่เป็นที่สูง
  6.1. การเพาะปลูก มี 2 ประเภท คือ
     1. เพื่อยังชีพและทำไร่เลื่อนลอย พึ่งพาฝนฟ้าธรรมชาติ ใช้แรงงานคนและสัตว์ผลผลิตต่ำ พบได้ทั่วไปในแอฟริกา
     2. เพื่อการค้า  ใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยี เจ้าของมักเป็นชาวผิวขาว พบได้ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้
     พืชที่ใช้เพาะปลูกแบ่งตามสภาพอากาศได้ดังนี้
      1) ภูมิอากาศร้อนชื้น ชายฝั่งอ่าวกินีและที่ราบลุ่มแม่น้ำคองโก มีโกโก้(ประเทศที่ส่งออกมากที่สุดคือกานา) ปาล์มน้ำมัน กาแฟ ถั่วลิสง อ้อย และยางพารา
      2) ภูมิอากาศร้อนและแห้งแล้ง บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ซึ่งใช้น้ำจากระบบชลประทาน มีฝ้าย ข้าวฟ่าง ชา อินทผลัม
      3) ภูมิอากาศเมดิเตอร์เรเนียน ที่ชายฝั่งบาร์บารีและแหลมกู๊ดโฮป ปลูกข้าวสาลี องุ่น ส้ม มะนาว มะกอก
      4) ภูมิอากาศอบอุ่นชื้น ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ปลูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด
   6.2. การเลี้ยงสัตว์ แอฟริกามีทุ่งหญ้ากว้างขวางเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์เกือบทุกภูมิภาค มี 2 ลักษณะ ดังนี้
      1) แบบเร่ร่อน ผู้เลี้ยงจะต้องต้อนฝูงสัตว์ไปยังที่มีแหล่งน้ำและทุ่งหญ้า ได้แก่เขตทุ่งหญ้าสเต็ปป์ชายขอบของทะเลทรายสะฮารา และเขตที่สูงภาคตะวันออก 
      2) ฟาร์มปศุสัตว์ เพื่อการค้า ใช้บริโภคเป็นอาหารและเป็นวัตถุดิบอุตสาหกรรม เช่นหนัง ขน ฟาร์มปศุสัตว์มักจะพบในเขตอบอุ่นแอฟริกาใต้
       สัตว์ที่เลี้ยงมาก ได้แก่
        - คพันธุ์พื้นเมือง เป็นโคเขายาวที่นิยมเลี้ยงกันทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของทวีป การเลี้ยงโคของชาวแอฟริกานอกจากเพื่อใช้แรงงานและใช้เนื้อเป็นอาหารแล้ว ยังแสดงถึงฐานะทางสังคมด้วย กล่าวคือ ผู้มีจำนวนโคมากแสดงถึงความมีฐานะดีและเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคม
        - โคพันธุ์ต่างประเทศ เป็นโคที่นำมาจากต่างประเทศเลี้ยงไว้ เพื่อใช้เนื้อและนม เลี้ยงกันมากทางตอนใต้และตอนเหนือของทวีป ในเขตอากาศอบอุ่นชื้นและเขตเมดิเตอร์เรเนียน
        - แพะและแกะ นิยมเลี้ยงแบบเร่ร่อน ซึ่งพบในประเทศที่มีอากาศแบบทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย
        - อูฐ เป็นสัตว์เลี้ยงในเขตแห้งแล้ง เพื่อใช้เป็นสัตว์พาหนะและใช้เนื้อเป็นอาหาร
        - ลา เลี้ยงไว้เป็นสัตว์พาหนะในเขตทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย
 
      6.3. การประมง ผลผลิตทางการประมงมีไม่มาก พอแบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ
       1)  ประมงน้ำจืด จับเพื่อบริโภค ไม่นิยมเพาะเลี้ยง มักจับตามแม่น้ำ คูคลอง ทะเลสาบต่างๆ
       2)  ประมงน้ำเค็ม สาธารณรัฐแอฟริกาจับได้มากที่สุด 
    6.4. การทำป่าไม้ เขตที่มีความสำคัญในการทำป่าไม้ในแอฟริกา คือ บริเวณทางชายฝั่งอ่าวกินี 
และบริเวณลุ่มแม่น้ำคองโก เป็นแหล่งที่มีป่าไม้อยู่มากและอยู่ใกล้ทะเล ซึ่งสามารถขนส่งได้ง่าย กับ
เขตที่ราบสูงของแอฟริกาตะวันออก




    6.5. การทำเหมืองแร่ แร่ที่สำคัญของแอฟริกา ได้แก่ เพชร ทองคำ ยูเรเนียม ถ่านหิน ใยหิน เหล็ก แมงกานีส ทองแดง ดีบุก บอกไซต์ และฟอสเฟต มีแหล่งผลิตดังนี้
      1) เพชร แหล่งเพชรที่สำคัญ ได้แก่ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ นามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว และโมซัมบิก
      2) ทองคำ ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ซิมบับเว กานา ผลิตทองคำได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก แหล่งสำคัญอยู่ที่วิตวอเตอร์สแรนด์ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้
      3) ถ่านหิน มีในรัฐทรานสวาล และนาทาลในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เป็นแหล่งสำคัญที่สุดในแอฟริกา
      4) น้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติ มีในเขตทะเลทรายสะฮารา ได้แก่ ลิเบีย ไนจีเรีย แอลจีเรีย อียิปต์
      5) เหล็ก พบมาในเขตที่ราบสูงมาลาวี ซิมบับเว โมร็อกโก แต่มีปริมาณไม่มาก
      6) ทองแดง พบมากในแคว้นคาดังกา ประเทศซาอีร์ ผลิตได้มากที่สุดในแอฟริกา
   6.6. การทำอุตสาหกรรม ไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร
      1)  อุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร มีมากที่สุดได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง น้ำตาลทราย น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วลิสง
      2) อุตสาหกรรมหนัก การประกอบรถยนต์ การผลิตเหล็กและเหล็กกล้า ผลิตในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้
      3)  อุตสาหกรรมกลั่นน้ำมัน ในอียิปต์ ลิเบีย แอลจีเรีย
   6.7. การพาณิชยกรรม  การค้าระหว่างประเทศต่างๆ ในแอฟริกากับภูมิภาคอื่นของโลก ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้า จะมีประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าบ้างก็เฉพาะประเทศผู้ผลติน้ำมันและแก๊ส ธรรมชาติ กับประเทศโกตดิวัวร์และรวันดาเท่านั้น ที่ได้ดุลการค้าในการค้าขายกับต่างประเทศ ลักษณะการค้ากับต่างประเทศ ดังนี้
    1) สินค้าออก ที่สำคัญได้แก่ น้ำมันดิบ แก๊สธรรมชาติ อาหาร ยาสูบ และวัตถุดิบต่างๆ ตลาดรับซื้อสินค้าจากแอฟริกา ได้แก่ กลุ่มสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆในยุโรปตะวันออก
    2) สินค้าเข้า ที่สำคัญได้แก่ เครื่องจักรกล ยานยนต์ อุปกรณ์การขนส่งสินค้าจากโรงงานอุตสาหกรรม น้ำมันดิบ และแก๊สธรรมชาติ แหล่งที่ส่งสินค้าเข้าสู่แอฟริกา ได้แก่ กลุ่มสหภาพยุโรป กลุ่มโอเปค สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
7. การคมนาคมขนส่ง
   7.1. การคมนาคมขนส่งทางบก เส้นทางรถยนต์และรถไฟยังมีน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน เส้นทางยังไม่ได้มาตรฐาน ยกเว้นสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประเทศเดียวที่มีเส้นทางหนาแน่นกว่าทุกชาติ สาเหตุที่ทำให้ล้าหลังคือขาดแคลนเงินทุนและสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง ทะเลทรายและเทือกเขา
   7.2. การคมนาคมขนส่งทางน้ำ ทางแม่น้ำใช้ประโยชน์ได้น้อย เพราะมีเกาะแก่งมากและมีน้ำตกขวางกั้นเป็นช่วงๆ บางแห่งน้ำตื้นและไหลเชี่ยว มีแม่น้ำคองโกสายเดียวเดินเรือได้ดี ส่วนทางทะเลมีท่าเรือน้ำลึกได้มาตรฐานหลายแห่ง เมืองท่าสำคัญคือ เคปทาวน์ คาซบลังกา อเล็กซานเดรีย นอกจากนี้ยังมีคลองสุเอซ เป็นเส้นทางเดินเรือสมุทรขนาดใหญ่ เชื่อมทะเลแดงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
   7.3. การคมนาคมขนส่งทางอากาศ ศูนย์กลางทางการบินอยู่ที่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ กรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย
8. ลักษณะประชากร สังคม วัฒนธรรม 
   8.1. ประชากร มีประมาณ 941 ล้านคน ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดคือ ไนจีเรีย 
      1) กลุ่มชนผิวดำ คือนิกรอยด์  นิกรอยด์ในแอฟริกาเรียกว่า "แอฟริกันนิโกร" มีปีะมาณ 70% ของประชากรทั้งหมดในทวีป ลักษณะคือ ดำมืด กระโหลกศีรษะกลม ผมหยิก จมูกโตแบน ตาโปน ปากหนา มีหลายเผ่า คือ กลุ่มบันตู อาศัยอยู่แอฟริกาตะวันออก แอฟริกากลางและแอฟริกาใต้ เช่น เผ่าวาตูซี มีรูปร่างสูงใหญ่ กลุ่มปิกมี่ มีรูปร่างเตี้ยที่สุด อาศัยอยู่บริเวณป่าดิบลุ่มแม่น้ำคองโกในแอฟริกากลาง กลุ่มบุชแมน มีรูปร่างเล็ก อาศัยอยู่ในเขตทะเลทรายกาลาฮารี ในแอฟริกาตอนใต้ กลุ่มซูดาน นิโกร อาศัยอยู่ในแอฟริกาตะวันตก
      2) กลุ่มชนผิวขาวดั้งเดิม  คือพวกคอเคซอยด์ อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีปมาตั้งแต่สมัยโบราณ ได้แก่ ชาวอาหรับ และเบอร์เบอร์ มีประมาณ 28% ของประชากรทั้งหมด ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอียิปต์ แอลจีเรีย ลิเบีย โมร็อคโค
      3) กลุ่มชนผิวขาวที่อพยพมาใหม่ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ดัตซ์ เป็นต้น อยู่ทางเขตอบอุ่นทางใต้ของทวีปและพวกผิวขาวจากปากีสถานและอินเดีย ซึ่งอพยพเข้าไปอาศัยอยู่ทางภาคตะวันออกของทวีป
      การกระจายของประชากร
         -เขตที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ได้แก่ บริเวณที่มีสภาพแวดล้อมธรรมชาติส่งเสริมต่อการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย คือ มีความชื้นเพียงพอ มีดินอุดมสมบูรณ์และมีอากาศไม่ร้อนจัดเกินไป ได้แก่
           1) ที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ ในประเทศอียิปต์ เป็นแหล่งที่มีน้ำและดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก
           2) ที่ราบลุ่มแม่น้ำไนเจอร์และชายฝั่งอ่าวกินี ได้แก่ บริเวณชายฝั่งตั้งแต่ประเทศแกมเบียถึงคองโก เป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากทะเล อากาศจึงไม่ร้อนจัดจนเกินไป มีความชื้นเพียงพอมีที่ราบชายฝั่งเป็นแนวยาว และมีที่ราบลุ่มแม่น้ำไนเจอร์เป็นแหล่งที่มีดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การอยู่ อาศัยและประกอบอาชีพเกษตรกรรม
          3) ที่ราบสูงภาคตะวันออก ได้แก่ บริเวณประเทศเอธิโอเปีย ยูกันดา เคนยา และแทนซาเนีย เป็นเขตที่มีอากาศไม่ร้อนจัดเกินไปเพราะเป็นบริเวณที่ราบสูง มีพืชพรรณธรรมชาติเป็นทุ่งหญ้าเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์และอากาศอบอุ่นสบาย
         4) คาบสมุทรภาคใต้ ในเขตประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ มีอากาศอบอุ่นและมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐานอยู่ อาศัยและประกอบอาชีพ  
         -เขตที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง ได้แก่ ดินแดนที่ทุรกันดารและเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีพ มีอากาศแห้งแล้งและมีอากาศร้อนมากตลอดปี เช่น บริเวณทะเลทรายสะฮารา ทะเลทรายคาลาฮารี และเขตที่มีปริมาณน้ำฝนสูงและตกชุกตลอดปีเป็นที่ชื้นแฉะ พืชพรรณเป็นป่าดงดิบ เช่น แถบลุ่มแม่น้ำคองโก พื้นที่ชายฝั่งอ่าวกินี เป็นต้น
   8.2. ภาษา ภาษาพูดมีมากนับพันภาษา มี 4 กลุ่ม
      1) กลุ่มภาษาเซมิติก ได้แก่ ภาษาอาหรับ เป็นภาษาของคนส่วนใหญ่ในแอฟริกาเหนือ และบางส่วนในแอฟริกาตะวันออก ส่วนกลุ่มภาษาเซมิติกของชาวยุโรปเป็นภาษาของเจ้าอาณานิคมที่เข้ามาปกครอง เป็นภาษที่ใช้กันแพร่หลายเมื่อไม่นานมานี้ ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ และภาษาดัตช์
      2) กลุ่มภาษาซูดาน เช้น ภาษาอิโบเป็นภาษาของประชากรในประเทศต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตทุ่งหญ้าสะวันนาทางตอนใต้ของทะเลทรายสะฮารา
      3) กลุ่มภาษาบันตู เช่น ภาษาซูลู ภาษาสวาฮารี เป็นภาษาของประชากรในประเทศต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคกลางและภาคตะวันออกของทวีป รวมทั้งบางประเทศที่อยู่ทางตอนใต้ด้วย
      4) กลุ่มภาษาเฮาซา เช่น ภาษาฟลูนี ภาษาแมนดาเป็นกลุ่มภาษาทางการค้าของประชากรทางภาคตะวันตกของทวีป
   8.3. ศาสนา ประชากรส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกายังมีความเชื่อและปฏิบัติตามความเชื่อนั้นสืบต่อกันตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษมาหลายชั่วอายุคน เช่น เรื่องจิตวิญญาณ อำนาจของดวงดาว ภูเขา ต้นไม้ สิ่งมหัศจรรย์ เป็นต้น ส่วนศาสนาที่นับถือกันมาก ได้แก่ ศาสนาคริสต์ มีผู้นับถือมากที่สุด ประมาณร้อยละ 46  รองลงมาได้แก่ ศาสนาอิสลามมีประมาณร้อยละ 42 นับถือมากในภาคเหนือ นอกจานี้ยังมีชาวอินเดียที่อพยพเข้ามาใหม่นับถือศาสนาฮินดูและศาสนายิวก็มี ผู้นับถืออยู่บ้าง
   8.4. การศึกษา แอฟริกาเป็นทวีปที่ยากจนและต้องพัฒนาทางด้านวิทยากรสมัยใหม่ แม้ความก้าวหน้าในโลกปัจจุบัน จะเป็นเครื่องกระตุ้นให้ประชากรและรัฐบาลของประเทศต่างๆ ต้องยกระดับและขยายการศึกษาให้ทั่วถึง แต่การขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์และขัดสนทางด้านเศรษฐกิจในเกือบทุกประเทศ ย่อมเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาการศึกษา นั่นคือประเทศที่ยากจน อัตราส่วนการรู้หนังสือของประชากรจะต่ำ เช่น เอธิโอเปีย มาลี ไนเจอร์ ขณะที่ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้และแทนซาเนีย มีสภาพเศรษฐกิจดีกว่าประเทศทั้งสามนี้มีอัตราส่วนของผู้รู้หนังสือสูงร้อยละ 60 และ 85 เป็นต้น
   8.5. ลักษณะสังคม
      1) สังคมชนพื้นเมืองแบบดั้งเดิม 
         (1) สังคมที่ห่างไกลความเจริญหรือทุรกันดาร เช่นเขตตทะเลทราย ป่าดงดิบ ล้าหลัง เก็บของป่าและล่าสัตว์
         (2) สังคมในชนบท เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อน ยากจน ขาดการศึกษา
         (3) สังคมในเมือง มีการศึกษา ส่วนใหญ่เป็นชาวชนบทที่มาเป็นแรงงานรับจ้าง ยากจน รายได้น้อย
         (4) สังคมมุสลิิม มีทั้งชาวมุสลิมที่ค้าขายกับกองคาราวานอูฐและเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน ใช้ชีวิตเรียบง่าย และชาวมุสลิมในเมืองใช้ชีวิตมีระเบียบแบบแผนมากกว่า
      2) สังคมชาวแอฟริกันและพวกเชื้อสายยุโรปที่มีวัฒนธรรมตะวันตก เป็นสังคมของชนชั้นปกครอง มีฐานะทางเศรษฐกิจดี การศึกษาสูง และสังคมของคนกลุ่มน้อย ประกอบอาชีพธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม
   8.6. ลักษณะทางการเมืองการปกครอง
      1) รูปแบบรัฐ รัฐเดี่ยยวคือมีรัฐบาลกลางแห่งเดียวมี 50 ประเทศ และรัฐรวม คือมีรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น มี 3 ประเทศ คือ ไนจีเรีย คอโมโรส์ แคมเมอรูน
      2) ระบอบการปกครอง มี 4 ลักษณะดังนี้
         (1) แบบสาธารณรัฐประธานาธิบดีเป็นประมุขและหัวหน้ารัฐบาล คือมีประธานาธิบดีปกครองและบริหารประเทศ เช่น กานา เคนยา ไลบีเรีย ซิมบับเว แอฟริกาใต้ ระบอบนี้ใช้มากที่สุด
         (2) แบบสาธารณรัฐประธานาธิบดีเป็นประมุข มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล เช่น แอลจีเรีย อียิปต์ แคมเอมรูนเอธิโอเปีย กาบอง
         (3) แบบกษัตริย์เป็นประมุข มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล มี 3 ประเทศคือ โมร็อคโค เลโซโท สวาซิแลนด์
         (4) แบบสาธารณรัฐอิสลาม ได้แก่ ลิเบีย ประเทศเดียว
  
ที่มา :  
-นางจินดา  เทพมงคล,นางนิตยา  ศรีละออ,นางนวลจันทร์ รณวิชญ กลุ่มสาระสังคมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
- ผศ.ดร. ธีระ  นุชเปี่ยมและคณะ หนังสือเรียนแม็ค สังคม ม.2 บริษัท สำนักพิมพ์แม็ค จำกัด กรุงเทพ
- สมบัติ สมบูรณ์,นึก  ทองมีเพชร หนังสือเรียนภูมิศาสตร์ ม.3 สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช  กรุงเทพ